The perfect spot for meeting up. Several gazebos around the house are perfect places to enjoy the scenery and chill out.

เรือนต้นเข็ม ชื่อนี้มาจาก "คลองต้นเข็ม" คลองสายหนึ่งที่ตัดผ่านอำเภอดำเนินสะดวก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณสมพร มารควัฒน์
ในอดีตริมสองฝั่งคลองนั้นปลูกต้นเข็ม ไว้เป็นแนวยาว ทุก ๆ เช้าจะมีเรือแม่ค้าพายผ่านมาเพื่อไปขายของยังตลาดน้ำปลายคลอง คลองต้นเข็มที่
เรือทั้งหลายจะต้องหยุดชั่วครู่ราวกับต้องมนต์เพื่อชื่นชมความงาม ของดอกเข็ม ต้นเข็มเป็นต้นไม้ที่คู่กับวิถีชีวิตไทย ๆ มาช้านาน ทุกครั้งที่จะบูชาครูจะมี ช่อดอกเข็มประดับพานเพื่อเป็นสัญญลักษณ์แทนปัญญาเฉียบแหลมด้วยเสมอ คนไทย
มีความเชื่อว่าถ้าปลูกต้นเข็มไว้ในบ้านจะทำให้สมาชิกในครอบครัวเกิดปัญญาเฉียบแหลม
เพราะเหตุนี้เองคนไทยจึงนิยมปลูกต้นเข็มเป็นแนวรั้วเรือนต้นเข็มเป็นสถาปัตยกรรมที่รังสรรค์
ขึ้นมาจากเรือนไม้หลังเดิมของบ้านปาละวงศ์ เรือนต้นเข็ม มองแล้วให้ความรู้สึกเย็นตาด้วย ประตูและหน้าต่างสีน้ำเงินผ่านกาลเวลา
รอบๆเรือนรายล้อมไปด้วยศาลาราย เหมาะสำหรับ นั่งพักรับลมธรรมชาติ ที่ใคร ๆ ก็อยากมานั่งเย็นชื่นใจ ห้องรับรองในเรือนต้นเข็มนี้ ประกอบด้วย ห้องรับรอง ได้แก่ ห้องชลมารค ห้องดำเนินสะดวก ห้องทับเที่ยง และ ห้องวิถีไทย ห้องพิพิธภัณฑ์ “อยู่คู่ไทย” และ ห้องแสดงงานผ้าไหมของ Naj’s Collectionplaces to enjoy the scenery and chill out.

Inspired by the largest floating market in the world from the owner's hometown of Ratchaburi province.

The image of the boats, fully-loaded with fruits, mirror the slow life of those living on the embankments, letting you feel the peace and happiness from the riverside house.

สองฝั่งคลองเรียงรายไปด้วยไร่สวนผลไม้ ที่เกิดจากความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร ที่ได้สายน้ำหล่อเลี้ยง การแลกเปลี่ยนสินค้าพื้นบ้าน กลายเป็นตลาดน้ำชุมชนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภาพเรือแจวแน่นขนัดจอดเทียบท่าขายของ เรือแต่ละลำบรรทุกผลไม้และขนมไทยนานาชนิดเต็มลำ เป็นภาพที่ทั้งโลกต้องตราตรึง "ยิ้มสยาม" ที่เกิดจากความจริงใจ มนต์เสน่ห์ของชาวดำเนิน ที่ดึงดูดสายตาผู้พบพาน
วิถีชีวิตริมสายน้ำที่ปราศจากความรีบเร่ง การใช้ชีวิตสมถะตามธรรมชาตินี้เอง คือหัวใจสำคัญในการตกแต่งของห้องดำเนินสะดวก
ความสงบเหมือนนั่งอยู่ในบ้านริมน้ำจะเติมเต็มชีวิตของคุณให้อิ่มเอมไปด้วยความสุข

Inspired by the Verse of Food and Dessert by King Rama II (Boat Poem). Historical oars on the bamboo wall makes one feel as if sitting and rowing boats down the Chao Pharaya River.

จากพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ อันลือเลื่องถึงรสมือของสตรีไทยกระฉ่อนไกลไปทั่วโลกใน "กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน"
ที่ทรงนิพนธ์ขึ้นจากความงามแห่งสรรพรส ซ่อนเร้นความนัยในจิตใจ ของพระองค์ ที่มอบทั้งพระหฤทัยไว้กับหัตถ์ที่ปรุงเครื่องคาวหวานนั้น
กลายมาเป็นการตกแต่ง อันงดงามของห้องชลมารค ด้วยทิวทัศน์กรุงรัตนโกสินทร์ ผสานความงามจากเรือพระที่นั่ง สุพรรณหงส์
ที่ทั้งโลกต้องตะลึงในความวิจิตร ราวกับจะขับขานกาพย์เห่เรือ ให้ดังขึ้นทุกครั้งยาม ได้พิศชม "ไม้พาย" ทุกเล่ม เปี่ยมด้วยประวัติ
ประดับไว้บนฝาผนังล้วนเล่าขานถึงกาลเวลา ที่พายพัดผ่านสายน้ำ เสมือนหนึ่งได้นั่งริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
แต่มีเล่มหนึ่งที่แตกต่างคือ "ไม้พายของพระสงฆ์" ที่ใช้ขณะบิณฑบาตทางน้ำ ลักษณะใบพายจะเป็นร่องเพื่อช่วยเพิ่มแรงส่ง
สร้างสรรค์จากศิลปะที่คำนึงถึงการใช้งานอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะไทย

แรงบันดาลใจสำคัญของการตบแต่งห้องทับเที่ยงนี้มาจาก ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าดังจะเห็น ได้จาก การเสด็จประพาสหัวเมืองต่าง ๆ ในสยามประเทศ เพื่อรับรู้รับทราบปัญหาของ
ท้องถิ่นนั้นดุจพ่อดู แลลูก จากพระราชกรณียกิจนานับประการที่ทรงพัฒนาประเทศไทยให้ เจริญกว่าประเทศโดยรอบ
จึงทรงได้รับการถวายพระสมัญญานามว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช" แปลว่า "พระราชาอันเป็นที่รักยิ่ง"
ทับเที่ยง คืออีกชื่อของเมืองตรัง มีที่มาจากสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จ ประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้
เมื่อเสด็จถึงเมือง ควนธานี (บริเวณศาลหลักเมือง) เป็นเวลาเที่ยงพอดี ชาว เมืองจึงเรียกบริเวณนี้ว่า "ที่ประทับเที่ยง"
และเพี้ยนเสียงเป็น "ทับเที่ยง" ในที่สุด เมื่อชาวเมืองตรังได้ถวายฎีกาขอ พระราชทานเจ้าเมืองคนใหม่
พระองค์จึงทรงโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง พระยารัษฎานุประดิษฐ์ มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง)ให้เป็นเจ้าเมืองตรังเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และ สังคมเมืองตรัง ให้เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่สำหรับรองรับสินค้าจากปีนัง ในตอนนั้นมีการตัดถนนเส้น ทางเขา พับผ้าเชื่อมกับพัทลุง
พระยารัษฏาฯ จึงได้ขอพระบรมราชานุญาติจากรัชกาลที่ห้า ย้ายเมือง ควนธานีไปตั้งอยู่ที่กันตัง ต่อมาสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เกิดสงครามโลก ครั้งที่หนึ่งขึ้น พระองค์ทรงห่วงว่าพสกนิกรจะเดือดร้อนหากถูกรุกราน ทางทะเล เนื่องจาก บริเวณกัน ตังเป็นที่ลุ่มติดน้ำ จึงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ย้ายเมืองตรังจากกันตัง มาอยู่ที่ ตำบลทับเที่ยงตาม เดิม
(ข้อมูลจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ฯ ตรัง และคุณลุงเปรียม วรตันติ. สัมภาษณ์ : 2550)

Memories never fade with the passage of time.
Local Thai dishes, cutlery, lunchboxes, pots, ancient cookbooks and other period gems as used. In the past are
filled with memories.

แม้นกาลเวลาจะผ่านพ้นไปมากสักเพียงไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เลือนหายไปจากกาลเวลา นั่นก็คือ " ความทรงจำ "
ภายในห้องอยู่คู่ไทยนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ บ่งบอกถึงความรัก ความทรงจำและกาลเวลาของครอบครัว คุณสมพร มารควัฒน์ จาน ชาม ช้อน ปิ่นโต หม้อ ไห ตำราทำอาหาร และเครื่องคู่ครัวอื่นๆที่ผ่านการใช้งานมาจริงๆ ถูกนำมาจัดแสดงไว้ที่นี่ ทุกท่านที่ได้มาเยือนจะได้เรียนรู้ขนบประเพณีวัฒนธรรม ของไทยในอดีตที่ ฝากไว้เพียงความทรงจำ ให้คนรุ่นหลังไม่ลืมเลือนรากเหง้าของตน

ชื่อเรือนหลังในนี้มีที่มาจากต้นไม้ประจำจังหวัดตรังบ้านเกิดของคุณลักขณนาจ มารควัฒน์ "ศรีตรัง"เป็นพืชที่นำเข้ามาปลูกโดยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) พร้อม ๆ กับกาแฟ และยางพารา ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม ต้นศรีตรังจะออกดอกสะพรั่งไปทั่ว ดอกที่โรยลงบนพื้นสวยงามราวกับผืนพรมสีม่วงคราม

เสียงดนตรีดังคลอลมชายเฉื่อยฉิว ใต้ท้องฟ้าราตรีแต้มแสงดาว คือ ความประทับใจทุกคราที่นั่งลงตรงนี้ เติมเต็มรสชาติชีวิต ด้วยอาหารและบรรยากาศสบาย ๆ ใต้แสงเทียนเคียงแสงจันทร์ ร่วมสรรค์สร้างความทรงจำดีๆในค่ำคืนอันแสนวิเศษกับคนพิเศษของคุณที่นี่
”เคียงลมชมดาว” คือที่ๆจะทำให้คุณมีความสุข ทุกยามที่คุณนึกถึง

Surrounded by a traditional Thai atmosphere with a story of folklore, history and culture beautifully painted on the walls, guests are invited to relax in the comfort of rattan chairs andThai silk cushions.
The perfect place for romantic dining, corporate meetings, family gatherings, wedding parties and special occasions.

ตกแต่งด้วยสีเบจที่ให้ความอบอุ่นสบายตา เก้าอี้หวาย โคมไฟกรงนก เป็นมนต์เสน่ห์ที่ขับกล่อมให้ทุกคู่รักดูดดื่มกับความหวานของการตกแต่งบรรยากาศอันประทับใจเพื่อวันสำคัญวันนี้ ห้องวิวาห์จะเติมเต็มทุกสัมผัสแห่งรักครั้งเดียวในชีวิตด้วยความทรงจำอัน งดงามตราบนิจนิรันดร์
“รักมิรู้ลืม รสมิรู้เลือน”

เป็นห้องสำหรับรับรองทุกท่านนอกเหนือจากที่สำรองห้องพิเศษไว้ ชื่อ“ห้องมรกต”นี้ มิได้มีชื่อมาจากอัญมณีสีเขียว แต่เป็น "ถ้ำมรกต"
ถ้ำกลางทะเลตรัง ที่เข้าออกได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น ปากถ้ำเป็นโพรงเล็ก ๆ สูงพ้นน้ำพอเรือลอดได้
การเข้าออกจะต้องลอยคอในน้ำ ลอดถ้ำอันมืดมิด ผ่านเส้นทางคดโค้ง เข้าแถวเรียงหนึ่งตามคนนำทางต่อแถวจับไหล่คนข้างหน้าเหมือนเล่นงูกินหาง เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเป็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชันมีฟ้าสีครามเป็นหลังคาและแต่งแต้มผนังด้วยสีเขียวของใบไม้ โพรงที่ลอดเข้าถ้ำมรกตจะอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเกาะยามแสงอาทิตย์ทำมุมพอเหมาะทั้งเกาะและเวิ้งถ้ำก็พลันกลายเป็นสีเขียวมรกตงดงาม และแรงบันดาลใจในการตกแต่งห้องนี้ ก็เกิดจากความงดงามของหาดทรายสีขาวนวลละเอียดราวกับพรม
ที่อยู่ใจกลางของถ้ำมรกตอันงดงามนี้เอง